Tuesday, 28 March 2023

การระบาดโควิดระลอกใหม่น่ากังวลแค่ไหน

โควิด 19 หากว่าโควิด-19 จะถูกประกาศให้เป็นโรคประจำถิ่นไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ต.ค. รวมทั้งปรับให้เป็นโรคติดต่อที่จำเป็นต้องเฝ้าระวัง แต่ว่าดูอย่างกับว่าสถานการณ์การระบาดกลับน่ากังวลขึ้นมาอีกทีนับตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. ก่อนหน้านี้ ปัจจุบันนี้ คนตายเฉลี่ยรายวัน เพิ่มเป็น 15 คนแล้ว

ข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ประเทศไทยยังมีลักษณะท่าทางมากขึ้น รวมทั้งมีคนเสียชีวิตเฉลี่ยยังเพิ่มสูง โดยผู้ตายทุกรายยังอยู่ในกลุ่ม 608 และก็เกือบทั้งหมดไม่ได้รับวัคซีน ได้รับวัคซีนไม่ครบ หรือได้รับเข็มกระตุ้นนานเกินกว่า 3 เดือนแล้ว

แม้กระนั้น นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวมาว่า สถานการณ์ดูเหมือนจะเริ่มชะลอตัวลง รวมทั้งระบบสาธารณสุขยังรองรับได้

ฐานข้อมูลย้อนหลังของกระทรวงสาธารณสุขนับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 46 (13-19 พ.ย.) จำนวนผู้ติดโรคเฉลี่ยทยอยมากขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า จาก 452 คน เป็น 565 คน ในเวลาที่ยอดผู้เสียชีวิตเฉลี่ยก็เพิ่มจาก 6 คน เป็น 9 คน

ในสัปดาห์ที่ 47 (20-26 พ.ย.) ผู้ติดเชื้อเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเป็น 702 คน และสัปดาห์ที่ 48 (27 พ.ย.-3 ธ.ค.) ปรับลดลงเป็น 612 คน และสัปดาห์ล่าสุด (4-10 ธ.ค.) ลดลงมาเป็น 566 คน

แต่ในแง่ของจำนวนผู้เสียชีวิตเฉลี่ยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นชัดเจน นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 46 จาก 9 คน เพิ่มขึ้นเป็น 10 คน และ 15 คน ตามลำดับ จนตัวเลขชะลอตัวในสัปดาห์ล่าสุดยังคงอยู่ที่ตัวเลขเฉลี่ย 15 คน

โควิด 19 โควิดสายพันธุ์อินเดีย

โควิด 19 สถานการณ์ตอนนี้เป็นเช่นไร

หมอมีชื่อหลายคนได้มีความเห็นต่อสถานการณ์การระบาดในขณะนี้ว่า ยังคงน่าจับตาเพราะยังมีความไม่แน่นอน เวลาเดียวกันยังใกล้กับช่วงเทศกาลที่มีคนเดินทางแล้วก็จัดงานสนุกสนาน ซึ่งบางทีก็อาจจะส่งผลให้การระบาดเพิ่มสูงมากขึ้นอีก

รองศาสตราจารย์นพ. ธีระ วรธนารัตน์ จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโพสต์เฟซบุ๊กถึงเหตุการณ์โควิด-19 โดยประเมินว่า ในช่วงเวลานี้ เหตุการณ์จัดว่า “พีคสูงกว่าระลอกสามในปีที่แล้วของอัลฟาแล้วก็เดลตา และก็… พีคสูสีกับระลอกช่วงครึ่งปีแรก ฉะนั้น ก็เลยย้ำเสมอว่าไม่ใช่เวฟเล็ก รอบกายมีการติดกันรัว”

นอกเหนือจากนี้ รศ.นพ. ธีระ ยังให้ความเห็นว่า ยังจัดว่าตอบได้ยาก ว่าความผันผวนจะทวีความร้ายแรงมากยิ่งกว่าเดี๋ยวนี้หรือเปล่า และก็จะลงช้าเร็วเพียงใด จากการใช้ชีวิตเสรีในหน้าเทศกาล แม้ไม่ป้องกันภัย

สถานการณ์โควิด “ศึก” นี้ จะกินเวลาไปกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก รวมทั้งมีโอกาสยืดไปจนเกิดปะทุตอกย้ำซ้ำเติมจากสายพันธุ์ย่อยอื่นๆตัวอย่างเช่น BQ.1.1, XBB, CH.1.1 ได้ ก็จะมีผลให้คล้ายกับระลอกสามที่อัลฟานำมาก่อน และยังไม่ทันลงก็มีเดลตาเข้ามาซ้ำ

การตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ และช่วยกันป้องกันตัวจึงสำคัญมาก

จับตาสายพันธุ์ใหม่จากอินเดีย

ท่ามกลางความรู้สึกกังวลใจของการระบาดในระลอกเดี๋ยวนี้ มีการตักเตือนจากนายแพทย์จากโรงหมอวิชัยยุทธถึงความเป็นไปได้ที่เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่จากอินเดียจะเข้ามาระบาดในไทย เช่นเดียวกันกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสิ้นปี 2563 ที่เชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบทีแรกในประเทศอินเดีย แล้วก็แพร่กระจายอย่างเร็วและก็เกิดการระบาดใหญ่ทั่วโลก รวมทั้งในไทยเมื่อกลางปี พ.ศ.2564

นพ. มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องห้องดูแลผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ คนเจ็บหนัก และก็โรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เมืองไทยจะต้องจับตาเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดในประเทศประเทศอินเดีย เนื่องจากว่าหลายทีที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดกลายพันธุ์ตัวใหม่ในประเทศประเทศอินเดีย หลังแล้วต่อจากนั้นอีกไม่นานก็พบการแพร่ระบาดของเชื้อสายพันธุ์นั้นในประเทศไทย

โควิด 19 วัคซีนตัวใหม่

สำหรับเชื้อไวรัสตัวล่าสุดที่ต้องจับตา คือ ไวรัสโควิดสายพันธุ์ XBB

ซึ่งเป็นลูกผสมของไวรัสโควิดสายพันธุ์ BA.2.10.1 กับ BA.2.75 โดยมั่นใจว่าอีกไม่นาน ก็จะแทนที่สายพันธุ์ BA.2.75 ในประเทศประเทศอินเดีย

“ประเทศไทยเตรียมตัวได้เลยว่า หลังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ BA.2.75 อีกไม่นานก็จะมีสายพันธุ์ XBB แพร่ระบาดเหมือนประเทศอินเดีย” เพราะสายพันธุ์ใหม่นี้ติดต่อกันง่ายกว่าสายพันธุ์เดิม และหลบหลีกภูมิคุ้มกันไม่ว่าจากการฉีดวัคซีนหรือการติดเชื้อธรรมชาติได้ดีกว่าสายพันธุ์เดิม

นพ. มนูญ ยังระบุอีกว่า ปัจจุบันนี้ไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่ใช้เวลาสั้นกว่าเดิม เพียง 3-4 เดือน ก็เข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดิม และทำให้เกิดการระบาดใหญ่ระลอกใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีกไปทั้งโลก

อย่างไรก็ตาม ไวรัส โควิด สายพันธุ์ ใหม่ ๆ ไม่ ได้ ทำให้ คนป่วยหนักและก็เสียชีวิตราวกับสายพันธุ์เดลตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ได้รับวัคซีน 4 เข็ม คือได้วัคซีนครบ 2 โดสแล้วก็และก็ตามด้วยเข็มกระตุ้นอีก 2 เข็ม

ต้องฉีดวัคซีนอย่างไร วัคซีนแบบใหม่จำเป็นต้องรอนานมากแค่ไหน

หากว่าสัญญาณการระบาดในขณะนี้จะเริ่มชะลอตัว แม้กระนั้นการฉีดยาเพื่อเพิ่มภูมิต้านทานยังมีความจำเป็น ด้วยเหตุว่าจะสามารถช่วยป้องกันอาการป่วยหนักรวมทั้งลดโอกาสการสูญเสีย

จาก ข้อมูล ของ กรม ควบคุม โรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ประชาชน ควรจะ ได้ รับ วัคซีน อย่าง น้อย 4 เข็ม ส่วน เข็ม ถัดไปควร ฉีด ห่าง กัน ราว 4 เดือน และส่วนวัคซีนแบบใหม่ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา

ด้าน ศาสตราจารย์ นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. เกี่ยวกับ ความสามารถของวัคซีนแบบใหม่โดยอ้างประกาศของศูนย์ป้องกันและก็ควบคุมโรคของสหรัฐฯ หรือซีดีซี (CDC) เกี่ยวกับความสามารถในการใช้จริงครั้งแรก (real world effectiveness data) ของวัคซีนแบบใหม่ bivalent mRNA (14 เดือนกันยายน- 11 เดือนพฤศจิกายน) แล้วก็รายงานจากนิตยสาร Nature Medicine เมื่อ 6 เดือนธันวาคม แล้วก็นิตยสาร Lancet Infectious Disease แล้วก็ Lancet Microbe ประจำเดือน เดือนธันวาคม ว่า ภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดีในเลือดไม่มีผลต่อเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ BA.2.75.2., BQ.1., XBB.1 และสายย่อยอื่นๆซึ่งแสดงว่าป้องกันการได้รับเชื้อไม่ได้

ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา CDC แล้วก็ สำนักงานคณะกรรมการอาหารรวมทั้งยา (FDA) ได้ประกาศแล้วว่าแอนติบอดีที่ใช้สำหรับเพื่อการรักษาแล้วก็ป้องกัน รวมทั้ง evusheld (แอนติบอดีสำเร็จรูปหรือภูมิต้านทานสำเร็จรูปเพื่อป้องกันการได้รับเชื้อโควิด-19) ใช้ไม่ได้กับสายพันธุ์ย่อยใหม่กลุ่มนี้ ที่เข้ามาแทนที่ตัวเก่า

อย่างไรก็ตาม นพ. ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เผยเมื่อต้นเดือนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาว่า กรมควบคุมโรค อยู่ระหว่างการปรึกษาขอคำแนะนำกับคณะผู้ที่มีความชำนาญถึงเรื่องประสิทธิผลของวัคซีนแบบใหม่ หรือวัคซีน 2 สายพันธุ์ ซึ่งถ้าเกิดพบว่าผลการค้นคว้าสามารถป้องกันการรับเชื้อโควิด 19 อย่างชัดเจน ก็จะเร่งปฏิบัติการจัดหามาให้บริการประชาชนในปีหน้า