Tuesday, 28 March 2023

นักวิจัยค้นพบว่ามลพิษทางอากาศนำไปสู่การเกิดโรคมะเร็งปอดได้อย่างไร

นักค้นคว้าค้นพบว่ามลภาวะทางอากาศก่อให้เกิดการเกิด โรคมะเร็งปอด ได้อย่างไร ซึ่งถือเป็นการค้นพบที่เปลี่ยนความรู้ความเข้าใจถึงการเกิดขึ้นของเนื้องอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ไม่เคยแม้แต่จะดูดบุหรี่เลย

เมื่อเดือน เดือนกันยายน ทีมงานวิจัยสถาบันฟรานซิส คริก ในกรุงลอนดอน ระบุว่า มลภาวะทางอากาศก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดได้จริง แม้ในคนที่ไม่ดูดบุหรี่ ด้วยการกระตุ้นหรือปลุกเซลล์เก่าๆที่เสียหายขึ้นมา มากกว่าการสร้างความทรุดโทรมให้เซลล์ ตามความเชื่อเดิม

หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญสุดยอด คือ ศ.จ. ชาร์ลส์ สแวนตัน ระบุว่า การค้นพบดังกล่าวทำให้แวดวงแพทย์ “เข้าสู่สมัยใหม่” รวมทั้งอาจก่อให้เกิดการพัฒนาตัวยา เพื่อยับยั้งมะเร็งไม่ให้ก่อตัวขึ้น

ความเสี่ยงเกิดมะเร็งปอด

โรคมะเร็งปอด โดยปกติแล้ว การก่อตัวของมะเร็งจะกำเนิดเป็นลำดับขั้นตอน คือ เริ่มจากเซลล์ที่แข็งแรง

แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆเกิดการกลายพันธุ์ในระดับสารพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ จนถึงจุดที่กลายเป็นเซลล์เปลี่ยนไปจากปกติ สู่เซลล์มะเร็ง รวมทั้งเติบโตอย่างควบคุมไม่ได้

แต่แนวความคิดการเกิดมะเร็งเช่นนี้ มีปัญหา ด้วยเหตุว่าการกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้เกิดขึ้นในเนื้อเยื่อที่แข็งแรง แต่กลับกลายเป็นว่าต้นตอของมะเร็ง รวมทั้งมลภาวะทางอากาศ ไม่ได้สร้างความเสียหายต่อดีเอ็นเอ แต่เป็นการกระตุ้นเซลล์ที่เสียหายให้กลับมาทำงานอีกทีมากกว่า

ศ.จ. สแวนตัน ระบุว่า “ความเสี่ยงกำเนิดโรคมะเร็งปอดจากมลภาวะทางอากาศ มีน้อยกว่าการดูดบุหรี่ แต่ด้วยเหตุว่ามนุษย์ควบคุมการหายใจของตนเองไม่ได้ รวมทั้งทั่วทั้งโลก ผู้คนอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัยจากมลภาวะทางอากาศมากยิ่งขึ้นกว่า การดมสารเคมีที่เป็นพิษจากควันจากบุหรี่”

แล้วเกิดอะไรขึ้น?

นักค้นคว้าซึ่งปฏิบัติงานอยู่ที่มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน หรือยูซีแอล ได้ค้นพบหลักฐานถึงแนวความคิดใหม่ถึงการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบุคคลที่ไม่ดูดบุหรี่ โดยระบุว่า จริงๆแล้ว ความทรุดโทรมได้ฝังตัวอยู่ในดีเอ็นเอของเซลล์ ในระหว่างที่พวกเราเติบโตรวมทั้งมีอายุมากยิ่งขึ้น

มลพิษทางอากาศ

แต่จะต้องมีสิ่งที่มากระตุ้นความทรุดโทรมในดีเอ็นเอของเซลล์ก่อน มันถึงจะกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้

การค้นพบนี้ มาจากการวิเคราะห์ว่าทำไมบุคคลที่ไม่ดูดบุหรี่ถึงเป็นโรคโรคมะเร็งปอด แน่ๆว่า มูลเหตุส่วนใหญ่ของคนไข้โรคมะเร็งปอดมาจากการสูบยาสูบ แต่ก็พบว่า 1 ใน 10 ของคนไข้โรคมะเร็งปอดในสหราชอาณาจักร มีต้นเหตุมาจากมลภาวะทางอากาศ

ทีมงานวิจัยของสถาบันฟรานซิส คริก ให้ความใส่ใจกับอนุภาคฝุ่นละอองหลังเที่ยงวัน 2.5 (PM 2.5) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของมนุษย์

รวมทั้งเมื่อปฏิบัติงานทดสอบในสัตว์รวมทั้งมนุษย์โดยละเอียด พวกเขาพบว่า สถานที่ที่มีมลภาวะทางอากาศสูง จะเจอคนไข้โรคมะเร็งปอดที่ไม่ได้เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการสูบยาสูบ ในสัดส่วนที่มากขึ้น

โดยเมื่อสูดฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เข้าไปภายในร่างกาย จะทำการกระตุ้นให้หลั่ง “อินเทอร์ลิวคิน 1 เบตา” ออกมา เป็นการตอบสนองทางเคมี จนก่อให้เกิดอาการอักเสบ จนร่างกายต้องกระตุ้นเซลล์ในปอดให้เข้ามาซ่อม

แต่เซลล์ปอดนั้น ทุกๆ600,000 เซลล์ ในบุคคลอายุราว 50 ปี จะมีอย่างน้อยหนึ่งเซลล์ ที่สุ่มมีความเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์เป็นเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งปกติแล้ว ร่างกายจะกำเนิดเซลล์ที่สุ่มเสี่ยงนี้ เมื่อมนุษย์อายุมากขึ้น แต่เซลล์จะยังดูแข็งแรงอยู่ ตราบจนกระทั่งจะถูกกระตุ้นให้กลายพันธุ์

การค้นพบที่สำคัญยิ่งกว่า คือ นักค้นคว้าสามารถยับยั้งการก่อมะเร็งในหนูที่ปลดปล่อยให้พบเจออยู่ในสภาพการณ์มลภาวะทางอากาศ ด้วยการใช้ตัวยาเพื่อยับยั้งการโต้ตอบทางเคมีดังกล่าว ผลสรุปจึงถือเป็นการค้นพบครั้งใหญ่ 2 ครั้งซ้อนคือเพิ่มความรู้ความเข้าใจถึงผลพวงของมลภาวะทางอากาศ รวมทั้งแนวทางกำเนิดมะเร็งภายในร่างกาย

ดร. เอมิเลีย ลิม หนึ่งในนักวิจัย ซึ่งประจำอยู่ที่คริกรวมทั้งยูซีแอล ระบุว่า โดยปกติแล้ว บุคคลที่ไม่เคยดูดบุหรี่เลย แต่กลับเป็นโรคโรคมะเร็งปอด มักจะไม่รู้ถึงมูลเหตุ

“โดยเหตุนี้ การให้เบาะแสพวกเขาถึงมูลเหตุการเกิดมะเร็ง จึงเป็นเรื่องจำเป็นมาก” รวมทั้ง “ยิ่งสำคัญมากขึ้น เมื่อประชากร 99% ในโลก ล้วนอาศัยอยู่ในสถานที่ที่ระดับมลภาวะทางอากาศ สูงกำเนิดกว่าข้อเสนอแนะขององค์การอนามัยโลก”

คิดเรื่องมะเร็งเสียใหม่

ผลสรุปของการทดลองนี้ ยังทำให้เห็นว่า การกลายพันธุ์ในเซลล์เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่ต้นเหตุก่อให้เกิดการเกิดมะเร็งเสมอไป แต่อาจมีต้นเหตุอื่นเสริมด้วย

ศ.จ. สแวนตัน ระบุว่า การค้นพบที่น่าเร้าใจที่สุดในห้องแลป คือ “แนวความคิดการเกิดเนื้องอกที่ต้องหันกลับมาทวนเสียใหม่” รวมทั้งนี่อาจก่อให้เกิด “สมัยใหม่” ของการป้องกันมะเร็งในระดับโมเลกุล อาทิเช่น แนวความคิดที่ว่าถ้าคุณอยู่ในสถานที่ที่มีมลภาวะทางอากาศสูง คุณอาจทานยาต้านทานมะเร็งได้ เพื่อลดความเสี่ยง

ศ.จ. สแวนตัน บอกกับสถานีวิทยุกระจายเสียงบีบีซีว่า พวกเราอาจต้องพิจารณาถึงแนวทางที่ว่า การสูบยาสูบก่อให้เกิดมะเร็ง ด้วย รวมทั้งอันที่จริง แนวความคิดที่ว่า ดีเอ็นเอกลายพันธุ์นั้นน้อยเกินไปที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็ง ด้วยเหตุว่าจะต้องมีต้นเหตุอื่นกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งเติบโต มีการนำเสนอมาตั้งแต่ปี 1947 แล้ว โดย ไอแซค เบเรนบลูม

อย่างไรก็แล้วแต่ มิเชลล์ มิตเชลล์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยมะเร็งแห่งสหราชอาณาจักร ย้ำว่า ตอนนี้ “ยาสูบยังเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคมะเร็งปอด” แต่ “วิทยาศาสตร์ อาศัยการทำงานอย่างมากหลายปี รวมทั้งกำลังเปลี่ยนแปลงแนวความคิดว่ามะเร็งเกิดขึ้นได้อย่างไร รวมทั้งเวลานี้ พวกเรามีความรู้ถึงแรงกระตุ้นให้กำเนิดมะเร็งได้มากขึ้นแล้ว”

แล้วโรคมะเร็งปอดพบเห็นได้มากแค่ไหน สมาคมอเมริกันแคนเซอร์ ระบุว่า โรคมะเร็งปอดทั้งแบบชนิดเซลล์เล็ก รวมทั้งชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก เป็นมะเร็งที่พบได้ทั่วไปที่สุดอันดับ 2 ในสหรัฐฯ ในขณะที่ในผู้ชายนั้น มะเร็งที่พบได้ทั่วไปที่สุดคือมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนสตรีนั้น จะเป็นมะเร็งเต้านม

ทางสมาคมประเมินว่า ปี 2022 เจอคนไข้โรคมะเร็งปอดมากยิ่งขึ้น 236,740 คน รวมทั้งเสียชีวิต 130,180 คน โดยคนไข้โรคมะเร็งปอดส่วนใหญ่ เป็นผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป แต่ก็มีโอกาส แม้ว่าจะน้อยมากๆที่ประชาชนอายุ ชต่ำลงยิ่งกว่า 45 ปี จะเป็นโรคโรคมะเร็งปอด โดยอายุเฉลี่ยของคนไข้โรคมะเร็งปอดอยู่ที่ 70 ปี

โรคมะเร็งปอดยังคิดเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง เกือบจะ 25% ของผู้ตายจากมะเร็งทั้งหมด

สำหรับประเทศไทยนั้น แพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ พูดว่า โรคมะเร็งปอดเป็นมะเร็งที่พบได้ทั่วไปที่สุดทั่วทั้งโลก สำหรับประเทศไทยโรคมะเร็งปอดถือเป็น 1 ใน 5 ของมะเร็งที่มักพบ ซึ่งพบได้ทั่วไปเป็นอันดับ 2 ในเพศชาย รวมทั้งอันดับ 5 ในเพศหญิง แต่ละปีจะมีคนไข้รายใหม่ราว 17,222 ราย เป็นเพศชาย 10,766 ราย รวมทั้งเพศหญิง 6,456 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้ตายราว 14,586 ราย หรือคิดเป็น 40 รายต่อวัน

ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคมะเร็งปอดเป็นการสูบยาสูบหรือการได้รับควันจากบุหรี่มือสองรวมทั้งการสัมผัสสารก่อมะเร็ง อาทิเช่น ก๊าซเรดอน แร่ใยหิน รังสี ควันธูป ควันจากท่อไอเสีย รวมทั้งมลภาวะที่เกิดขึ้นทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5

การสูดสารเคมี