Tuesday, 28 March 2023

“บิ๊กตู่”แค่เปิดหัวรอ ของจริง-ยุบสภาก.พ.!?

ผ่านสายตากันไปแล้ว สำหรับงานเปิดตัว “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ด้วยการเป็นสมาชิก พรรครวมไทยสร้างชาติ กลายเป็นนักการเมืองเต็มตัว ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคมเป็นต้นไป และก็แม้ว่าการเปิดตัวในวันดังกล่าว ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ จะดูยิ่งใหญ่อลังการก็ตาม

แต่ก็มีหลายคนที่ปรามาสว่า ยังพิสูจน์ไม่ได้ชัดเจนนัก รวมทั้งมองว่า ทั้งนักการเมือง และมวลชนที่เข้าร่วม ยังไม่อาจการันตีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มากพอสำหรับการไปต่อ เพราะเหตุว่าในจำนวนนั้น มีไม่น้อยที่เป็น “รุ่นเก่า” อะไรประมาณนั้น ซึ่งคำปรามาสแบบในเชิงเหยียดหยามที่ว่านั้น ล้วนมาจากฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณากันตามความเป็นจริงแล้ว การเปิดตัวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังกล่าวต้องยอมรับว่าสร้างกระแส ในทางการเมืองได้พอสมควร โดยเฉพาะกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ถือว่ามีความคึกคักอย่างเป็นรูปธรรม อย่างน้อยก็ได้สร้างความจดจำ ในฐานะพรรคการเมืองใหม่ได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงการที่ทุกสายตาจับจ้องไปที่ตัว “บิ๊กตู่” ที่เปิดตัวในฐานะสมาชิกพรรคการเมืองเป็นครั้งแรก รวมไปถึงการพูดบนเวที ในฐานะนักการเมืองอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ในวันดังกล่าวยังมีนักการเมืองระดับ รัฐมนตรี ส.ส.จากหลายพรรคการเมืองไปร่วมให้กำลังใจ สังเกตการณ์ ไปร่วมงานหลายคน โดยหลายคนที่ไปก็ยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือลาออกจากพรรคเดิมที่สังกัดอยู่ เพราะว่ายังรอจังหวะอยู่ แต่การเดินทางไปร่วมงาน มันก็มีแนวโน้มค่อนข้างจะชัดแล้วว่าพวกเขาได้ตัดสินใจมาร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว

เปิดตัวรวมไทยสร้างชาติ

นอกเหนือจากนั้น เมื่อได้ยินคำพูดของบรรดา ส.ส.จากบางพรรคที่มาร่วมงานเปิดตัว บิ๊กตู่ ครั้งนี้

ถึงเหตุผลที่ยังไม่ลาออก โดยพวกเขากล่าวว่าจะลาออกในปลายเดือนกุมภาพันธ์ หรือในช่วงปิดสมัยประชุมสมัยสุดท้าย ในวันที่ 28 เดือนกุมภาพันธ์ ทำให้รู้ได้ในทันทีว่า จะมีการ “ยุบสภา” ในต้นเดือนมีนาคม หรือภายในเดือนนั้นอย่างแน่นอน

ซึ่ง น.ส.รังสิมา รอดรัศมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาร่วมงานประชุมใหญ่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และงานเปิดตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกลาโหม สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค โดย นางสาวรังสิมา กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ยังคงปฏิบัติหน้าที่จนถึงปิดสมัยประชุม แต่ว่าวันนี้เดินทางมาให้กำลังใจพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้คงลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากยุบสภา แล้วก็คิดว่านายกรัฐมนตรีคงยุบสภา อาจจะไม่อยู่ครบวาระ เพราะเหตุว่าจะทำให้ส.ส.ย้ายพรรคไม่ทัน

โดย นางสาวรังสิมา กล่าวยอมรับว่า ยังไม่แจ้งให้ทางพรรคประชาธิปัตย์ทราบ แต่มั่นใจว่าทางพรรคคงรับทราบแล้ว เนื่องจากว่าผลโพลออกมาว่า ประชาชนต้องการให้ไปอยู่พรรคใด ก็ต้องไปตามโพล ซึ่งก็ชัดเจนว่าต้องการให้มาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)

น.ส.รังสิมา ยังกล่าวชี้แจงสาเหตุที่ต้องทำโพลว่า เมื่อการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาได้รับปากกับประชาชนไว้ ซึ่งคราวนี้ถ้าไม่ย้ายพรรค ประชาชนก็จะไม่เลือกตน แล้วก็จากผลโพลครั้งนี้ประชาชนในพื้นที่ก็สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ โดยให้เหตุผลว่า นายกฯ ทำให้บ้านเมืองสงบ แล้วก็นายกฯ เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ รักสถาบันฯ จึงอยากให้ตนมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)

ก่อนหน้านั้น นายสายัณห์ ยุติธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เผยออกมาว่า พวกตนและก็ทีมภาคใต้จะเดินทางไปให้กำลังใจนายกฯ ด้วยเนื่องจากว่าส่วนตัวได้ประกาศแล้วว่าจะไปกับนายกฯ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม

ส่วนการสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค รทสช. ของพวกตนจะไปสมัครหลังจากปิดสภา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของสภา จากนั้นพวกตนจะไปลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ โดยในส่วนของภาคใต้ ไม่ต่ำกว่า 30 คน ซึ่งเป็นผู้สมัครจากพรรคอื่นด้วย ทั้งจากพรรคพปชร. แล้วก็พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดังเช่นว่า นางสาวรังสิมา รอดรัศมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมุทรสงคราม แล้วก็ น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช ก็จะลาออกจากพรรคสังกัดเดิม เพื่อสมัครเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค รทสช.ด้วยเหมือนกัน

ถามว่า ในตอนนี้ยังเป็นสมาชิกพรรค พปชร.อยู่ จะไปร่วมการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคพปชร. ที่กำลังจะมีขึ้นหรือไม่ นายสายัณห์ กล่าวว่า ไม่ไปแล้ว ใจตนมาอยู่พรรคนี้แล้ว คงจะไม่ไปแล้ว และตนก็ไม่รู้ว่าเขาจะประชุมเมื่อไร รู้แต่ว่ากิจกรรมของพรรครทสช.

รังสิมา รอดรัศมี

จากคำพูดดังกล่าวของ สองสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่างพรรคคือ นางสาวรังสิมา รอดรัศมี จากพรรคประชาธิปัตย์ และก็นายสายัณห์ ยุติธรรม จากพรรคพลังประชารัฐ

ที่ไปปรากฏตัวในงานเปิดตัวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้ทราบว่า ยังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกล็อตหนึ่งที่จะย้ายมาร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติ หลังปิดสมัยประชุมนัดสุดท้าย วันที่ 28 ก.พ. แล้วก็จากคำพูดของนางสาวรังสิมา ทำให้รู้ว่าจะมีการ “ยุบสภา” หลังจากนั้น ด้วยเหตุว่าทำให้บรรดาส.ส.และนักการเมืองที่จะย้ายเข้ามาสังกัดได้ทันข้อกำหนดสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 30 วัน นับจนถึงวันเลือกตั้ง

เมื่อประมวลทุกอย่างแล้ว ก็เลยมั่นใจว่าจะมีการยุบสภาในเดือนมีนาคม ส่วนจะเป็นช่วงเวลาใดนั้น ก็อีกเรื่องหนึ่ง เนื่องจากว่าถือว่าก่อนครบวาระสภา ในวันที่ 23 เดือนมีนาคม เพียงไม่กี่วัน ขณะเดียวกันในช่วงเวลาดังกล่าวก็มีความเป็นไปได้ ที่กฎหมายสำคัญสองฉบับ คือ กฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง และก็ว่าด้วยการเลือกตั้ง ที่เป็นกติกาการเลือกตั้งน่าจะมีผลบังคับใช้พอดี

ถ้าเกิดโฟกัสไปที่ความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เห็นส.ส.และก็นักการเมืองจำนวนหนึ่งมาร่วมงาน แล้วก็แสดงตัวว่ามาร่วมสังกัดพรรคเดียวกัน แม้ว่าวันนั้นถ้าหากนับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้วอาจยังมีไม่มาก แต่เมื่อพิจารณาจากแนวโน้มแล้วก็ต้องจับตาหลังวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ว่าจะมีส.ส.ลาออกมาสมทบเพิ่มอีกกี่คน เนื่องจากนี่คือการพิสูจน์ให้เห็น “ของจริง” รวมถึงสามารถ“สร้างกระแส” ได้มากน้อยแค่ไหน

ดังนั้น สำหรับ “บิ๊กตู่” นาทีนี้ถือว่าต้องลุยเต็มที่สำหรับเป้าหมายในโควต้าที่เหลืออยู่ ซึ่งต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างประกอบกันทั้งกระสุน กระแส ตุนอยู่ในมือ แต่ว่าถ้าหากมีกระแสดี มันก็ทำให้เรื่องอื่นตามมาได้ไม่ยาก และที่สำคัญจำเป็นต้องรอดูว่าจะมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไหลเข้ามาร่วมอีกล็อตในเดือนกุมภาพันธ์ อีกจำนวนเท่าไหร่ เพราะว่าจะเป็นการสร้างพลังขับเคลื่อนได้เพิ่มเติมอีกระดับหนึ่ง แต่ว่าหากเทมาทางนี้ไม่มาก มันก็ทำให้โอกาสไปต่อยากเข็ญไปอีกหลายเท่า !!