Tuesday, 28 March 2023

ฟันฮิปโป กำลังกลายเป็นชิ้นส่วนจากสัตว์ป่าที่นักลักลอบสนใจค้าแทนงาช้าง

ฟันฮิปโป นักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ป่าเตือนว่า ข้อกำหนดที่ครัดเคร่งมากยิ่งขึ้นต่อการลักลอบค้างาช้างได้ก่อให้เกิดการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสมากเพิ่มขึ้น โดยบางครั้งก็อาจจะมีผลเสียอย่างรุนแรงต่อฮิปโปโปเตมัสสายพันธุ์ที่ได้รับการลงบัญชีว่า “มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์” (vulnerable to extinction)

ในตอนที่สหราชอาณาจักรประกาศการห้ามการค้างาช้างเกือบทั้งหมดเมื่อเดือน มิ.ย. ก่อนหน้าที่ผ่านมา องค์กรการกุศลด้านสวัสดิภาพสัตว์ป่าได้เล่าเรียนความเคลื่อนไหวในตลาดออนไลน์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

ฟันฮิปโป ฮิปโปโปเตมัส

“พวกเราเจอการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสมากเพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร”

ในช่วงหนึ่งเดือนหลังจากการห้ามการค้างาเกือบทั้งหมดมีผลบังคับใช้ แฟรงกี โอซูก หัวหน้าการเขียนรายงานที่เผยแพร่โดยบอร์น ฟรี (Born Free) เมื่อเดือน ก.ย. กล่าว

นี่คือ “หลักฐานที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่งว่า มีความต้องการฟันฮิปโปเพิ่มขึ้น ซึ่งปริมาณฮิปโปตามธรรมชาติก็พบเจอกับการคุกคามอยู่” รายงานกำหนด

บรรดานักวิจัยกล่าวว่า รูปแบบนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1989 ซึ่งทั่วทั้งโลกเห็นดีเห็นงามร่วมกันสำหรับเพื่อการห้ามการค้างาเป็นครั้งแรก และมีความเข้มงวดขึ้น เนื่องจากว่ารัฐบาลต่างๆได้นำมาตรการใหม่ๆมาใช้สำหรับในการห้าม

เช่นเดียวกับงาช้าง ฟันแล้วก็เขี้ยวของฮิปโปโปเตมัสมักถูกใช้สำหรับเพื่อการแกะสลักเพื่อนำไปประดับตกแต่ง แม้กระนั้นของพวกนั้นราคาถูกกว่า รวมทั้งหามาครอบครองได้ง่ายยิ่งกว่า

ส่วนต่างๆของฮิปโปยังสามารถนำไปขายภายใต้อนุสัญญากล่าวถึงการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและก็พืชป่าที่ใกล้จะสิ้นพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora –CITES) หรือ ไซเตส ได้ด้วย แม้กระนั้นวิธีขายในเมืองนอกต้องมีเอกสารสิทธิ์การส่งออก

นักเคลื่อนไหวด้านสัตว์ป่าเตือนว่า ความจำกัดที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นต่อการลักลอบค้างาช้างได้นำมาซึ่งการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสเยอะขึ้น โดยบางครั้งอาจจะก่อให้เกิดผลเสียอย่างร้ายแรงต่อฮิปโปโปเตมัสสายพันธุ์ที่ได้รับการลงบัญชีว่า “มีแนวโน้มใกล้สิ้นซาก” (vulnerable to extinction)

ในระหว่างที่สหราชอาณาจักรประกาศการห้ามการค้างาช้างเกือบทั้งหมดเมื่อเดือน มิ.ย. ก่อนหน้านี้ องค์กรการกุศลด้านความสะดวกสัตว์ป่าได้ศึกษาความเคลื่อนไหวในตลาดออนไลน์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย

“เราพบการค้าฟันฮิปโปโปเตมัสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในสหราชอาณาจักร ในช่วงหนึ่งเดือนหลังจากการห้ามการค้างาเกือบทั้งหมดมีผลบังคับใช้” แฟรงกี โอซูก ผู้นำการเขียนรายงานที่เผยแพร่โดยบอร์น ฟรี (Born Free) เมื่อเดือน เดือนกันยายน กล่าว

นี่คือ “หลักฐานที่น่าวิตกอย่างยิ่งว่า มีความต้องการฟันฮิปโปโปเตมัสมากขึ้น ซึ่งปริมาณฮิปโปโปเตมัสตามธรรมชาติก็เผชิญกับการคุกคามอยู่” รายงานกำหนด

ฟันฮิปโป งาช้าง

บรรดานักค้นคว้าระบุว่า รูปแบบนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1989

ซึ่งทั้งโลกเห็นด้วยร่วมกันสำหรับเพื่อการห้ามการค้างาช้างเป็นครั้งแรก รวมทั้งมีความเข้มงวดขึ้น เพราะเหตุว่ารัฐบาลต่างๆได้นำมาตรการใหม่ๆมาใช้ในลัษณะของการห้าม

เหมือนกันกับงา ฟันแล้วก็เขี้ยวของฮิปโปโปเตมัสมักถูกใช้เพื่อการสลักเพื่อนำไปตกแต่งตกแต่ง แต่ว่าของพวกนั้นราคาถูกกว่า และหามาครองได้ง่ายดายยิ่งกว่า

ส่วนต่างๆของฮิปโปโปเตมัสยังสามารถนำไปขายภายใต้อนุสัญญากล่าวถึงการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่ารวมทั้งพืชป่าที่ใกล้จะสิ้นพันธุ์ (Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora –CITES) หรือ ไซเตส ได้ด้วย แต่แนวทางการขายในต่างประเทศต้องมีเอกสารสิทธิ์การส่งออก

ชาติในแอฟริกากลางและตะวันตก 10 ชาตินี้ก็เลยได้เสนอวิถีทางที่เรียกว่า “ความเห็นประกอบ” ซึ่งจะนำมาซึ่งการทำให้มีการระบุโควตาเป็นศูนย์ในการค้าตัวอย่างสัตว์ป่าเพื่อจุดหมายทางการค้า แต่ว่าคำแนะนำนี้ไม่ได้รับการผลักดันและส่งเสริมจากสหภาพยุโรป หรือจากชาติต่างๆในแอฟริกาใต้และก็ตะวันออก ซึ่งกล่าวว่า ปริมาณประชากรฮิปโปโปเตมัสยังคงอยู่ในระดับที่ดี

บางประเทศในแอฟริกาใต้และทิศตะวันออก อย่างเช่น แทนซาเนีย, ยูกันดา, แซมเบีย แล้วก็ซิมบับเว ยังเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดฮิปโปราว 3 ใน 4 จากปริมาณ 13,909 ตัว ที่ถูกนำส่วนประกอบรวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆจากฮิปโปเหล่านี้ไปขายระหว่างปี 2009-2018

โจอันนา สวาเบ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายโปรโมทของสัมพันธ์มนุษยธรรมนานาชาติ (Humane Society International) ชี้ว่า แทบจะไม่มีการจัดการใดๆก็ตามตั้งแต่ปี 2016 เพื่อรักษาจำนวนฮิปโป

“แทบจะไม่มีการค้นคว้าวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับปริมาณประชากรที่จริงจริงของฮิปโปโปเตมัสในประเทศต่างๆเหล่านี้เลย” เธอกล่าว

“เวลาที่ในเวลาเดียวกัน ประเทศเหล่านี้ทราบดีว่า กำลังเกิดอะไรสังกัดฮิปโปภายในดินแดนของตนเอง เพราะฉะนั้น พวกเขาไม่ควรนิ่งเฉย”

ฮิปโปโปเตมัสมีอัตราการเกิดต่ำ โดยคลอดเพียง 1 ตัวในแต่ละปี โดยเหตุนั้นการมีปริมาณประชากรฮิปโปโปเตมัสที่ต่ำลงบางทีอาจก่อให้เกิดผลกระทบในระยะยาวได้

ฮิปโป

ฟันฮิปโป ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับฮิปโป

ฮิปโปโปเตมัสทุกตัวอาศัยอยู่ในแอฟริกา โดยมี 2 จำพวกคือ ฮิปโปโปเตมัสธรรมดา (common hippo) ซึ่งคาดว่า มีประชากรราว 115,000-130,000 ในปี 2016 และก็ฮิปโปแคระ (pygmy hippo) ซึ่งมีประชากรราว 2,000-3,000 ตัว

ฮิปโปโปเตมัสธรรมดาจัดอยู่ในประเภท “มีแนวโน้มใกล้สูญพันธุ์” ในบัญชีแดงของสหภาพนานาชาติเพื่อการรักษาธรรมชาติในปี 2016

มีการค้าองค์ประกอบรวมทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆของฮิปโปโปเตมัส 13,909 ตัว อย่างถูกกฎหมาย ระหว่างปี 2009-2018 โดย 3 ใน 4 ของฮิปโปโปเตมัสเหล่านี้มีต้นกำเนิดอยู่ในแทนซาเนีย, ยูกันดา, แซมเบีย แล้วก็ซิมบับเว

มีการค้าฟันฮิปโปอย่างถูกตามกฎหมายน้ำหนักรวม 770,000 กิโลกรัม ระหว่างปี 1975-2017 แต่ไม่เคยรู้จำนวนการค้าอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

ผู้ชำนาญด้านสัตว์ป่ากล่าวเพราะว่า ต้องเฝ้ามองการค้าฟันฮิปโปในขณะที่ถูกกฎหมายแล้วก็ผิดกฎหมายอย่างสนิทสนม

ฮิปโปธรรมดาถูกลงบัญชีในภาคผนวกที่ 2 ของไซเตส ซึ่งหมายความว่า บางครั้งอาจจะสูญพันธุ์ได้ ถ้าหากไม่มีการควบคุมการค้าอย่างครัดเคร่ง

10 ประเทศดังกล่าว ซึ่งกำลังพยายามให้มีการห้ามการค้าฟันฮิปโปทั่วโลก กล่าวว่า มีหลักฐานที่แจ่มกระจ่างว่า “มีการปนเปกันระหว่างฟันฮิปโปโปเตมัสไม่ถูกต้องตามกฎหมายรวมทั้งถูกต้องตามกฎหมาย” ทำให้ฟันฮิปโปที่ถูกลักลอบล่า “ถูกนำไปฟอกเพื่อนำไปขายในตลาดถูกต้องตามกฎหมาย”

หากไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวดเยอะขึ้น นักเคลื่อนไหวเตือนว่า ฮิปโปอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีโชคชะตาเช่นเดียวกับช้าง ซึ่งกลายเป็นสัตว์ที่ใกล้สิ้นซาก (endangered) หรือใกล้สิ้นพันธุ์อย่างยิ่ง (critically endangered) ในกรณีของช้างป่าแอฟริกา เนื่องจากผู้ลักลอบล่าสัตว์ได้ฆ่าช้างป่าเหล่านี้จำนวนมากเพื่อเอางาของพวกมัน

ขอขอบคุณสำนักข่าว BBC